รองนายกฯ สมคิด นำทีมรัฐมนตรีลุยภาคใต้ บูรณาการงานเชิงพื้นที่ “ประชารัฐสร้างไทยพัฒนาปักษ์ใต้ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน”
วันนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2563) ที่หอประชุมสถาบันการเงินชุมชนบ้านวังไทร ต.เขาโร อ.ทุ่งสง
จ.นครศรีธรรมราช นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายและติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน “ประชารัฐสร้างไทย พัฒนาปักษ์ใต้ ขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน” โดยตรวจเยี่ยมบูธนิทรรศการการดำเนินงานของชุมชนในการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก พร้อมร่วมรับฟังรายงานความก้าวหน้าของโครงการดังกล่าวจาก นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน นายฉัตรชัย ศิริไล นายนที ขลิบทอง ผู้อำนวยการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยมีนายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน เอกชน เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้การต้อนรับ โอกาสนี้ได้มอบสินเชื่อธุรกิจสร้างไทย ของ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน ให้แก่ ชุมชน และเกษตรกร ที่เข้าร่วมโครงการ , มอบสัญญาเช่าพื้นที่ ธนารักษ์พื้นที่นครศรีธรรมราช ให้แก่ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 20 คน และมอบเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 จำนวน 30 ราย
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลนี้ได้มีนโยบายในการพัฒนาที่ครบวงจร ต้องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการผลิต สร้างเศรษฐกิจของภาคใต้ ซึ่งนครศรีธรรมราช เป็น 1ใน 4 จังหวัดเป้าหมายของระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้( SEC ) ซึ่งมีศักยภาพสูงมากและพร้อมที่สุด ตนเชื่อว่ากระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะลงมาช่วยเหลือกันให้ทุกอย่างเดินไปข้างหน้า ทุกพรรคการเมืองมาช่วยกันไม่ใช่แค่พรรคร่วมรัฐบาลเพียงอย่างเดียว ที่ผ่านมาเราพึ่งพาการส่งออกมาเกินไปดังนั้นจึงต้องมาสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจภายในประเทศ ซึ่งเป็นความตั้งใจของนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการพัฒนาด้านเศรษฐกิจในพื้นภาคใต้ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีต้นทุนทางทรัพยากรสูง โดยการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น พร้อมส่งเสริมการทำการเกษตรที่หลากหลาย ไม่ปลูกพืชเชิงเดี่ยวอย่างที่ผ่านมา แต่ให้คำนึงถึงความต้องการของตลาดเพื่อแก้ปัญหาราคาผลผลิตล้นตลาด และราคาตกต่ำ ส่งเสริมการแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งรัฐบาลจะทำควบคู่ไปกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเชื่อมต่อกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก อย่าง รถไฟรางคู่ และท่าเทียบเรือน้ำลึก ในโครงการไทยแลนด์ ริเวียร่า หรือถนนเลียบชายฝั่งทะเล ด้านตะวันตกของอ่าวไทย ครอบคลุมพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง ต่อเนื่อง ภาคใต้ตอนบน ซึ่งขณะนี้ผ่านการพิจารณาของ ครม. เศรษฐกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเตรียมหารือกับ กระทรวงคมนาคม ถึงแนวทางการดำเนินการต่อไป
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานเตรียม
ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ที่ใช้โดยใช้เชื้อเพลิงจากขยะชุมชน ของเสียจากการเกษตร และพืชพลังงาน ดำเนินการโดยชุมชน หรือเอกชน ซึ่งจะทำให้ชุมชนมีรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า และมีรายได้จากการจำหน่ายพืชพลังงานด้วย เช่น ไผ่ หญ้าเนเปียร์ กระถินรงค์ เป็นต้น หรือวัสดุที่มีอยู่แล้วในชุมชน เช่น ทะลายปาล์ม ไม้ยางพารา ในการขายให้กับโรงไฟฟ้าคาดว่า จะมีการประกาศรับสมัครชุมชนหรือภาคเอกชนที่สนใจขอตั้งโรงไฟฟ้าชุมชน และคาดว่าจะสามารถประกาศผลการคัดเลือกรอบแรกได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ .//////////